น.ศ.สาวโดน2โจรป้ายยาจนมึน ก่อนหิ้วไปรูดทรัพย์-ทองจนหมดตัว ทิ้งนั่งเหม่อลอยหน้าห้าง

 วันที่ 6 ส.ค. ที่สน.มีนบุรี น.ส.เกษรา เทียนมณี อายุ 20 ปี นักศึกษาชั้นปวส.2 สาขาบัญชี วิทยาลัยอาชีวศึกษา เดินทางเข้าพบร.ต.อ.อุทัย พันธ์เหนือ รอง สว.(สอบสวน) สน.มีนบุรี เพื่อมาให้ปากคำเพิ่มเติมหลังแจ้งความร้องทุกข์พร้อมทั้งลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ว่าถูกคนร้ายเพศหญิงวัยกลางคน 2 คน ร่วมกันรูดทรัพย์หลายรายการประกอบด้วยสร้อยคอทองคำ น้ำหนัก 1 บาท จำนวน 1 เส้น แหวนทอง 1 สลึงจำนวน 2 วง ครึ่งสลึง จำนวน 1 วง โทรศัพท์มือถือซัมซุง 1 เครื่อง และเงินสดอีก 39,000 บาท เหตุเกิดบริเวณตลาดมีนบุรี ถนนสีหบุรานุกิจ แขวงและเขตมีนบุรี กทม. ต่อเนื่องห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี เอ็กซ์ตร้า สาขาสุขาภิบาล 3 ถนนรามคำแหง เหตุเกิดเมื่อเวลา 16.00 น. ของวันที่ 5 ส.ค.ที่ผ่านมา

 น.ส.เกษรา กล่าวว่า เมื่อเวลาประมาณ 12.30 น. ของวันที่ 5 ส.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่ตนกำลังนั่งรอรถตู้อยู่ที่ป้ายรถประจำทางบริเวณหน้าตลาดมีนบุรี เพื่อเดินทางกลับบ้านพักย่านหนองจอก ภายหลังจากเลิกเรียนเสร็จ ระหว่างนั้นมีผู้หญิงวัยกลางคน รูปพรรณสัญฐานผอม ผิวคล้ำ เข้ามาสอบถามเส้นทางว่าจะไปบางแคต้องขึ้นรถประจำทางสายใด จึงตอบกลับไปว่าไม่ทราบ ก่อนหญิงรายดังกล่าวได้เดินออกไป จากนั้นมีหญิงสาวอีกราย รูปร่างผอม สวมหน้ากากผ้าอนามัยทำทีเข้ามาซักถามตนอีกว่า รู้จักกับผู้หญิงที่เพิ่งเดินจากไปหรือไม่ เนื่องจากจะนำพระเครื่อง 1 องค์มาปล่อยให้บูชาต่อ และชวนคุยไปต่างๆนานา จากนั้นผู้หญิงรายแรกได้เดินกลับเข้ามาก่อนทั้งคู่จะตกลงกันเรื่องบูชาโดยข้อร้องให้ตนเป็นพยาน

 น.ส.เกษรา กล่าวต่อว่า เมื่อทั้งสองพูดคุยกันได้ซักระยะหนึ่งในนั้นได้นำมือมาแตะแขนตน ก่อนเริ่มมีอาการผิดปกติทางร่างกายโดยรู้สึกมึนงง และไม่สามารถควบคุมตนเองได้ จากนั้นทั้งคู่ได้พาตนขึ้นรถประจำทาง เพื่อมุ่งหน้าไปยังฝั่งตรงข้ามห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี เอ็กซ์ตร้า สาขาสุขาภิบาล 3 โดยระหว่างทางจู่ๆตนก็ถอดทรัพย์สินของมีค่าดังกล่าวให้ทั้งสองไปจนหมด เมื่อลงจากรถทั้งคู่ยังพาตนไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็มอีก 39,000 บาท ก่อนเรียกรถแท็กซี่ให้วกกลับไปส่งตนเพียงลำพังที่หน้าห้างดังกล่าว จากนั้นตนมารู้สึกตัวอีกทีตอนที่พนักงานของห้างเห็นนั่งเหม่อลอยในมือกุมพระสมเด็จอยู่ เมื่อตั้งสติได้จึงโทรศัพท์หามารดาให้มารับและพาไปแจ้งความเพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่สน.มีนบุรี

 ด้านพ.ต.ท.สุรพล ก้อมน้อย รองผกก.สส.สน.มีนบุรี เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่ทางพนักงานสอบสวนทำการสอบปากคำผู้เสียหายจนแล้วเสร็จ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนได้นำแฟ้มประวัติคนร้ายที่เคยก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวของพื้นที่สน.มีนบุรี มาให้ทางผู้เสียหายชี้รูปเพื่อยืนยันลักษณะรูปพรรณสัญฐานของคนร้าย โดยผลปรากฎว่าหนึ่งในนั้นเคยถูกจับกุมเมื่อหลายปีก่อน ซึ่งคาดว่าออกจากเรือนจำแล้วกลับมาก่อเหตุอีกครั้ง หลังจากนี้จะลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งก่อนประสานให้ทางพนักงานสอบสวนออกหมายจับ ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์ผู้อื่นโดยใช้กลอุบายต่อไป